อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ “โฮสเทล” ต้องอ่าน
แม้ว่า “โฮสเทล” ในปัจจุบันจะมีจำนวนมากขึ้น แต่ก็ยังมีช่องว่างและโอกาสสำหรับเจ้าของธุรกิจโฮสเทลหน้าใหม่อยู่ เนื่องจากการคาดการณ์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในปี 2562 ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยน่าจะสามารถขยายตัวเป็นบวกได้ต่อเนื่องจากปีก่อน โดยมีจำนวนประมาณ 39.00-39.80 ล้านคน เติบโตร้อยละ 2.1-4.1 จากปี 2561 สร้างรายได้มูลค่าประมาณ 2.16-2.20 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.9-8.9 จากปี 2561 และในขณะที่การให้เช่าที่พักและการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพกำลังเป็นที่นิยม เนื่องจากนักเดินทางต่างต้องการมาสัมผัสการท่องเที่ยวในท้องถิ่นของไทย โดยในปีที่ผ่านมามีนักเดินทางที่ใช้บริการ Airbnb มาท่องเที่ยวในไทยมากกว่า 1.65 ล้านคน และพบว่าผู้เข้าพัก 84% ต้องการใช้ชีวิตเหมือนคนท้องถิ่น ในขณะที่ 44% ใช้จ่ายเงินภายในละแวกที่พัก
จากการคาดการณ์และข้อมูลสถิติข้างต้นนั้น ทำให้หลายคนมองเห็นโอกาสในการสร้างหรือขยายธุรกิจจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้มากขึ้น เช่น การเปิดธุรกิจสถานที่พักขนาดย่อมสำหรับนักท่องเที่ยว หรือ ธุรกิจโฮสเทล นั่นเอง ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจ ที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และเป็นธุรกิจทางเลือกที่ตอบโจทย์ กลุ่มนักท่องเที่ยวแบบสะพายเป้ (Back packer) เป็นหลัก ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวที่กล้าเดินทาง“ท่องเที่ยวคนเดียว” มากขึ้น โดยกว่า 64% ของนักท่องเที่ยวคนเดียวนั้นนิยมเลือกใช้บริการที่พักประเภท “โฮสเทล” โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวในช่วงอายุ 18 – 30 ปี จึงส่งผลให้ธุรกิจ “โฮสเทล” เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก จนล่าสุดกลายเป็น “ดาวรุ่งมาแรง” ด้วย 3 เหตุผลหลัก ที่เหล่านักท่องเที่ยวเลือก ที่พักแบบโฮสเทล
1 ราคาถูก
2 การได้พบปะเพื่อนหน้าใหม่
3.แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทาง
โอกาสสำหรับเจ้าของธุรกิจโฮสเทลหน้าใหม่
1. จากการที่ประเทศไทยได้เป็นประธานอาเซียน ซึ่งถือเป็นโอกาสสำหรับเจ้าของธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจะขยายฐานตลาดเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวอาเซียน
2. จากนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง เพื่อเป็นการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่เมืองรอง ถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ซึ่งต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆด้วย อาทิ กลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย ศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และความพร้อมของระบบการคมนาคมขนส่งภายในจังหวัด
3. การที่เทคโนโลยีมีบทบาทมากขึ้นในการเป็นตัวกลางการท่องเที่ยวออนไลน์ ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่างต้องปรับตัวให้ทันและมีความยืดหยุ่นอยู่ตลอดเพื่อตามให้ทันเทคโนโลยีและความต้องการของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย
ดังนั้น จึงจำเป็นที่คุณควรต้องรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการในการทำธุรกิจโฮสเทล เบื้องต้นก่อน เพื่อให้สามารถอยู่รอดในวงการได้ เรื่องที่ต้องรู้มีอะไรบ้าง เมื่ออยากมีธุรกิจโฮสเทลเป็นของตัวเอง ตามมาดูกัน
1. ต้องทำความรู้จักลูกค้าที่เข้าพักในโฮสเทลของคุณ
ต้องทำความรู้จักกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่พักโฮสเทลของเราให้ดีเสียก่อน
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าลูกค้านักท่องเที่ยว แบ็คแพ็คเกอร์ (Backpacker) ทั้งชาวเอเซียและชาวยุโรปจะมีพฤติกรรมที่ค่อนข้างแตกต่างกัน เช่น นักท่องเที่ยวชาวเอเชีย จะชอบความเป็นส่วนตัว ชอบความสงบ เลือกจากการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าหรือรถไฟฟ้าใต้ดิน มีพื้นที่โดยรอบปลอดภัย อยู่ใจกลางเมืองและแหละท่องเที่ยว แต่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวสำหรับกลางคืน แต่นักท่องเที่ยวชาวยุโรปหรือฝรั่ง ชอบเข้าสังคม พบปะสังสรรค์กับเพื่อนหน้าใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทาง ชอบทำกิจกรรม เน้นอยู่ใจกลางเมืองและใกล้แหล่งท่องเที่ยว โดยมีพื้นที่โดยรอบปลอดภัย
ดังนั้นหากเรารู้ว่าลูกค้าเราคือใครหรือลูกค้าแบบไหนที่เราตั้งโจทย์ไว้อยากให้เป็นกลุ่มลูกค้าที่เราต้องการ การเลือกทำเลที่ตั้งและการออกแบบโฮสเทลสำหรับนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คเกอร์ (Backpacker) ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
2. ทำเลที่ตั้งของโฮสเทล
เจ้าของธุรกิจโฮสเทลหลายคนส่วนใหญ่ มักจะเลือกทำเลตามที่ถิ่นฐานที่ตั้งของที่พักอาศัยเพราะสามารถบริหารจัดการดูแลกิจการได้อย่างใกล้ชิด และเนื่องจากมีพื้นที่เหลือว่างไม่ได้ถูกใช้งาน หรือมีอาคารเก่าที่เป็นมรดก ก็สามารถนำมาแปลงสภาพเป็นโฮสเทลออกแบบและตกแต่งใหม่ได้เช่นกัน ที่สำคัญประหยัดงบได้มาก และเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้คนปัจจุบันหันมาเป็นเจ้าของโฮสเทล แต่บ่อยครั้งการเลือกทำเลที่ตั้งของโฮสเทลก็เป็นสิ่งสำคัญ เมื่อมองย้อนกลับไปยังพฤติกรรมการท่องเที่ยวแบบแบ็คแพ็คเกอร์ (Backpacker) นั้นจะพบว่านักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คเกอร์ (Backpacker) ส่วนใหญ่มักเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ท่องเที่ยวและจับจ่ายใกล้แหล่งที่พัก และใช้ระยะเวลาในการเข้าพักที่พักหรือโฮสเทลไม่มาก เพราะต้องการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ตามที่วางแผนหรืออาจไม่ได้วางแผนล่วงหน้า ดังนั้นหากเลือกทำเลที่ตั้งใกล้เส้นทางขนส่งสาธารณะที่สามารถเดินทางเข้าออกไปยังจุดหมายต่างๆได้ง่าย และยังคงวิถีการดำชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิมในระแวกที่พักด้วย ก็มักจะดึงดูดนักท่องเที่ยว แบ็คแพ็กเกอร์ (Backpacker) ได้ไม่ยากนัก ตัวอย่างย่านทำเลทอง เช่น ย่านเยาวราช ถนนข้าวสาร ย่านพญาไท ต่างจังหวัด เช่นเชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต เป็นต้น
3. การออกแบบโฮสเทล
การออกแบบโฮสเทล อาจเป็นเรื่องยากในการเริ่มต้นธุรกิจหากคุณไม่มีความรู้ด้านการออกแบบโฮสเทล หรือไม่มีความรู้เกี่ยวกับโฮสเทลมาก่อน ดังนั้น วิธีที่อาจทำให้คุณมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจโฮสเทลมากขึ้นนอกจากการอ่านหรือหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต หรือจากคนที่เคยอยู่ในวงการอุตสาหกรรมโฮสเทลมาก่อน อาจไม่ทำให้คุณเข้าใจได้ทั้งหมด ดังนั้นการลองไปพักหรือใช้เวลาในโฮสเทลที่ไหนสักแห่งที่คุณชื่นชอบ หรือเมื่อคุณมีโอกาสเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ลองเลือกที่พักแบบโฮสเทลดูบ้าง นั่นอาจจะช่วยจุดประกายไอเดียหรือสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบห้องพักโฮสเทล ห้องรับรองแขก ห้องกิจกรรมแม้กระทั่งห้องน้ำของโฮสเทลของคุณก็เป็นได้ รวมไปถึงเรื่องการบริการได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยตอบคำถามต่างๆ เกี่ยวกับอะไรบ้างที่ต้องมีหรืออะไรบ้างที่ไม่จำเป็นสำหรับธุรกิจโฮสเทลของคุณด้วยเช่นกัน และนอกจากนี้การออกแบบอาคารหรือรูปแบบและขนาดของห้องต่างๆของโฮสเทล ควรออกแบบให้เหมาะกับลักษณะ พฤติกรรมและขนาดรูปร่างสรีระของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่คุณเลือกโจทย์ไว้ในข้อแรกด้วย เช่น บริเวณพื้นที่ส่วนรวม (Common area) ต้องเสนอให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น หากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นที่เลือกไว้เป็นนักท่องเที่ยวชาวยุโรปจะมีรูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่ การเลือกเตียงนอนจึงต้องเป็นที่มีขนาดตามเตียงนอนจากฝั่งยุโรปหรือเป็นขนาดเตียงนอนที่ยาวและกว้างกว่าปกติในไทย หรือขนาดเก้าอี้ โซฟา ในห้องกิจกรรม หรือพื้นที่ส่วนรวม (Common area) จะต้องมีขนาดกว้างและมีความแข็งแรงเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าของคุณจะแฮปปี้และไม่เกิดอุบัติเหตุจากการใช้งานนั่นเอง บรรยากาศและการตกแต่ง เน้นให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นสไตล์ที่ฝรั่งชอบ เช่นการตกแต่งสไตล์ Industrial , Loft เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายบรรยากาศสบายๆเหมือนอยู่บ้านหรือเหมือนการไปเที่ยวบ้านเพื่อนนั่นเอง
หรือหากโฮสเทลของคุณ มีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเป็นส่วนใหญ่ ขนาดห้องพักกับเตียงนอนก็สามารถใช้ขนาดของคนเอเชียทั่วไปได้แต่อาจต้องออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวเอเชียส่วนใหญ่ชอบความสงบ ไม่ชอบความวุ่นวายในกลางคืน ดังนั้นการเลือกเตียงนอนหรือออกแบบห้องพัก อาจจะมีการติดม่านเพิ่มเพื่อให้เขาเหล่านั้นรู้สึกสงบและมีความเป็นส่วนตัว อีกทั้งยังช่วยให้ความรู้สึกปลอดภัยขึ้นด้วย บรรยากาศและการตกแต่งโฮสเทล พื้นที่ส่วนรวม (Common area) เน้นความเรียบง่าย แต่สวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ให้ความรู้สึกสบายและสงบ แต่ถ้าหากว่าคุณไม่แน่ใจว่าลูกค้าที่เข้าพักในโฮสเทลของคุณเป็นกลุ่มไหนหรืออาจจะเป็นทั้ง 2 กลุ่ม คุณอาจจะต้องมี 2 โซนสำหรับนักท่องเที่ยวชาวเอเชียและชาวยุโรป เพราะสไตล์และพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่ค่อนข้างแตกต่างกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การออกแบบโฮสเทลที่ดีนอกจากต้องคำนึงถึงลักษณ์ของผู้เข้าพักแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการสร้างจุดเด่นและเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัว โฮสเทลมีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน เพื่อสร้างความโดดเด่นและความแตกต่าง ให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์และเกิดการจดจำโฮสเทลได้ง่าย ซึ่งเป็นจุดขายของการบอกต่อที่ง่ายที่สุด ดังนั้นการออกแบบโฮสเทลจึงควรพิจารณาในหลายๆ ด้าน นอกเหนือจากเรื่องดีไซน์ แล้วยังรวมไปถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่จำเป็น เช่น จำนวนห้องน้ำ จุดเชื่อมต่อสาธารณูประโภค แสงสว่าง สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่จำเป็น รวมไปถึงการติดตั้งอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ควบคู่ไปกับงบประมานในการลงทุน และอย่าลืมว่า ยังมีอีกหลายส่วนที่จำเป็นต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการด้วยเช่นกัน
4. โฮสเทล กับการจัดการหน้าบ้าน/หลังบ้าน
การจัดการหน้าบ้าน
การเป็นเจ้าของธุรกิจโฮสเทลต้องให้เวลาและใส่ใจในรายละเอียด การรับฟังและทำความเข้าใจความต้องการและจุดประสงค์ ของเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ (Backpacker) ในการเลือกโฮสเทล ซึ่งอาจไม่ได้ต้องการบริการที่เพียบพร้อมเหมือนในโรงแรม แต่ต้องการบรรยากาศสบายๆ เหมือนอยู่บ้าน และต้องการแหล่งพบปะเพื่อนใหม่ๆ ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทาง สำหรับชาวแบ็คแพ็คเกอร์ (Backpacker) นั้นจะชื่นชอบเมื่อ “โฮสเทล” ต้อนรับด้วยความอบอุ่นและแนะนำสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่พัก แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหรือกิจกรรมต่างๆ เสมือนเพื่อนคนหนึ่ง ตลอดจนการตอบคำถามต่างๆ เมื่อเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ (Backpacker) ดังนั้น การสังเกตลูกค้าจะทำให้เราเข้าใจถึงความต้องการของนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น การเสนอให้ในสิ่งที่ตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวหรือเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์นั้นเป็นโอกาสที่จะทำให้เกิดความประทับใจต่อโฮสเทลของคุณได้ง่าย แม้ว่าจะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ตาม ซึ่งพนักงานกับการให้บริการเป็นอีกปัจจัยสำคัญ เพราะธุรกิจโฮสเทล เป็นธุรกิจบริการ สินค้าหลักคือการให้บริการลูกค้า พนักงาน คือต้นทุนที่สำคัญในธุรกิจโฮสเทล หากการให้บริการสามารถสร้างความประทับใจแก่ผู้เข้าพัก หรือเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ได้มากเท่าไร ก็จะยิ่งเป็นสิ่งกระตุ้นให้ธุรกิจโฮสเทลประสบความสำเร็จได้ในเวลาอันสั้นได้มากขึ้น
#นักท่องเที่ยว #ธุรกิจ #โฮสเทล #แบ็คแพ็คเกอร์ #เตียงนอน #เตียงเหล็ก #เตียงโฮสเทล #ที่พัก