จัดส่งฟรี เมื่อสั่งสินค้าครบ 5,000 บาท ภายในกรุงเทพและปริมณฑล
Wishlist

สิ่งที่ต้องรู้ เมื่ออยากเป็นเจ้าของธุรกิจโฮสเทล

อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ “โฮสเทล” ต้องอ่าน (part 2)

“โฮสเทล” ยังคงเป็นธุรกิจที่มาแรงในปัจจุบัน ที่มีปัจจัยมาจากการท่องเที่ยวในไทยบูมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากพาร์ทที่แล้วได้พูดถึงเรื่องของการบริหารจัดการ และสิ่งที่จำเป็นจะต้องรู้เมื่ออยากเป็นเจ้าของธุรกิจโฮสเทล (Hostel) ซึ่งนอกจากการแนะนำกิจกรรมหรือเตรียมกิจกรรมให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโฮสเทล เช่น การสอนทำขนมไทย การสอนมวยไทย หรือกิจกรรมเล่นเกมส์ต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อสร้างประสบการณ์ (Experience) ที่ดีและน่าจดจำใหแก่ผู้ที่เข้ามาพักแล้ว ยังทำให้เขามีโอกาสได้ทำความรู้จัก สนุก และรู้สึกถึงความผูกพัน ในระหว่างการเข้าพักในโฮสเทล หากใครที่ยังไม่ได้อ่านพาร์ทแรก อ่านได้ที่นี่ ” อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ “โฮสเทล” ต้องอ่าน”    

https://bit.ly/2JHaTWP
การตกแต่งโฮสเทล

4. การจัดการหลังบ้าน 
          เริ่มต้นด้วยการเทรนด์พนักงานในเรื่องการดูแลลูกค้า เรื่องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งพนักงานต้องรับมือและสามารถจัดการ จัดสรรห้องและเตียงนอนให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้าพัก หากนักท่องเที่ยวที่มาพักคนเดียวจะจัดสรรเตียงและห้องได้ง่าย และสามารถเลือกได้ว่าต้องการห้องเดี่ยวหรือห้องรวม หรือเลือกเตียงนอนได้ว่าเตียงชั้นล่างหรือเตียงชั้นบน แต่หากนักท่องเที่ยวที่จองห้องพักเข้ามาเป็นกลุ่มหรือมากกว่า 2 คนขึ้นไป ต้องเช็คประเภทห้องและจำนวนเตียง เพื่อให้สามารถรองรับได้ทั้งกลุ่มและไม่กระจายหรือแยกกัน ตามรูปแบบหรือประเภทห้องพักและเตียงนอนที่โฮสเทลเรามี เช่น ห้องเดี่ยว ห้องรวม เตียงสองชั้น 4 เตียง, 6 เตียง 8, เตียง หรือ 10 เตียงเป็นต้น ดังนั้นเมื่อมีลูกค้าจองเข้ามา ต้องมีการเช็คก่อนว่าลูกค้าจองห้องประเภทไหน เข้าพักจำนวนกี่คน ต้องการนอนเตียงบนหรือเตียงล่าง เป็นต้น ดังนั้นการเทรนด์พนักงานในเรื่องการดูแลผู้เข้าพัก การให้คำแนะนำ และการให้ความช่วยเหลือต่างๆ เพื่อให้ผู้เข้าพักได้พักในโฮสเทลที่ใช่ ซึ่งทำให้เกิดประสบการณ์ที่ดีและเกิดการบอกต่อได้

         ระบบการจองห้องพัก ต้องสามารถเข้าถึงได้ง่ายแต่ปลอดภัย ระบบการจองห้องพักและจ่ายเงินได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เช่นจองผ่านเว็บไซต์หลักของโฮสเทล หรือจองผ่านแอปพลิเคชั่นสำรับจองห้องพัก เช่น Agoda, Airbnb, booking.com เป็นต้น ที่มีภาษาอังกฤษในการสื่อสารเป็นหลัก หรืออำนวยความสะดวกในการจองห้องพักด้วย Call center มีระบบการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต/เดบิต การจ่ายผ่านระบบ QR Code, Air pay, Paypal และอื่นๆอีกมากมาย

         ประเภทห้องพัก/เตียงนอน (หรือการจัดโซน) การจัดโซนห้องพักควรจัดสรรตามขนาดพื้นที่ที่มี หากเป็นโฮสเทลที่เกิดจากการแปลงสภาพบ้านมาพื้นที่ใช้งานอาจไม่เยอะจึงไม่จำเป็นตองมีการจัดโซน แต่ต้องมีการแบ่งสัดส่วนการใช้งานที่ชัดเจน หรือหากธุรกิจโฮสเทลของคุณมีขนาดใหญ่ มีจำนวนหลายเตียง สามารถแบ่งโซนสำหรับแบ็คแพ็คเกอร์ชาวยุโรป และชาวเอเชีย หรือแบ่งโซนเฉพาะสำหรับผู้หญิง และอีกโซนเป็นรวมชายหญิง ก็ได้ ขึ้นกับขนาดของโฮสเทลและงบประมาน

       เรื่องการทำความสะอาดโฮสเทล เจ้าของโฮสเทลต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเช่นกัน การกำหนดจำนวนแม่บ้าน ช่วงเวลาทำความสะอาดได้ ต้องมีความสัมพันกับจำนวนห้องและจำนวนเตียงที่มี เพื่อจัดการทำความสะอาดและตรวจเช็คความเรียบร้อยได้ทันเวลาที่ลูกค้าใหม่เช็คอิน ซึ่งปกติโดยทั่วไป โฮสเทล โรงแรม รีสอร์ทต่างๆ มักจะเลือกช่วงเวลา 12.00-14.00 น. เป็นช่วงเวลาในการทำความสะอาดห้องพัก เนื่องจากเป็นเวลาที่ลูกค้าเดิมเช็คเอ้าท์ และลูกค้าใหม่ทำการเช็คอินเข้ามานั่นเอง ซึ่งการหาแม่บ้านที่ทำความสะอาดได้รวดเร็ว ห้องพักสะอาดสะอ้านเรียบร้อยเป็นเรื่องยากพอสมควร ดังนั้นการสรรหาแม่บ้านเป็นเรื่องละเอียดพิถีพิถันและต้องใช้เวลาซึ่งพอๆกับการสรรหาพนักงานในส่วนของการบริการเลยทีเดียว 

         การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ในการทำธุรกิจโฮสเทล กำไรเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง ไม่ว่าธุรกิจเล็กหรือใหญ่ต้องจัดทำบันทึกทางบัญชีรายรับ-รายจ่าย ต่างๆ เพื่อให้สามารถมองเห็นสภาพความเป็นจริงของกิจการ รวมทั้งเพื่อให้สามารถบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างก้าวหน้าและยั่งยืน และการจัดทำบันทึกบัญชีเป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนด หากเปิดธุรกิจแต่ไม่ทำบัญชีถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ดังนั้นหากธุรกิจโฮสเทลของคุณเป็นธุรกิจขนาดเล็กช่องทางรายได้ไม่ซับซ้อน การทำบัญชีรายรับรายจ่ายด้วยตัวเองเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะจะช่วยประหยัดงบประมาณในส่วนนี้ลงไปได้ แต่หากธุรกิจโฮสเทลของคุณดำเนินกิจการไปได้สวยและเติมโต มีรายได้จากหลากหลายช่องทางและมีความซับซ้อนการทำบัญชีด้วยตัวเองอาจทำให้คุณไม่มีเวลาใส่ใจกับปัญหาหรือการจัดการด้านอื่นๆ จึงควรมีผู้ช่วยทำบัญชี เช่น การว่าจ้างบริษัทรับทำบัญชีมาช่วยจัดการ และเจ้าของกิจการควรแบ่งเวลาให้แก่การตรวจสอบรายการทางบัญชีจากบริษัทรับทำบัญชีอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้รู้สถานภาพของการดำเนินงานปัจจุบัน และสามารถวางแผนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไป แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ถูกกำหนดตายตัวเสมอไป ขึ้นกับเจ้าของธุรกิจและขนาดของธุรกิจนั่นเอง 

5. กฎหมายที่ต้องรู้

ฏกหมายที่ต้องรู้
กฎหมายโฮสเทลที่ต้องรู้

        ตามที่กฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2559 (พรบ.โรงแรม 2547, ภาษีโรงแรม, ใบอนุญาต/จดทะเบียนโรงแรม) เพื่อให้โรงแรมขนาดเล็กสามารถเข้าสู่ระบบธุรกิจได้อย่างถูกต้องตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร โดยธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กที่มีห้องพักไม่เกิน 50 ห้อง หรือธุรกิจที่เรียกว่าโฮสเทล (Hostel) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจประเภทโรงแรมด้วยเช่นกัน จะต้องทำการ ”ยื่นขอใบอนุญาตประกอบการโรงแรม” ส่วนโรงแรมที่ดัดแปลงมาจากอาคารเก่า หรือนำอาคารประเภทอื่นมาดัดแปลงเป็นที่พัก ซึ่งลักษณะและโครงสร้างอาคาร ที่มีอยู่เดิมไม่สอดคล้องกับลักษณะของอาคารประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมาย ที่ว่าด้วยการควบคุมอาคาร ต้องทำการปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างรูปแบบอาคารให้มีมาตรฐานความปลอดภัย โดยเรื่องหลักคือช่องทางเดินในอาคาร สเปคเครื่องดับเพลิง บันไดหนีไฟ ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และหากไม่ปฏิบัติหรือไม่เป็นไปตามข้อกำหนดตามกฎกระทรวงกำหนดหรือ ตาม พ.ร.บ.โรงแรม การดัดแปลงอาคาร เพื่อทำโรงแรม ก็จะไม่มีสิทธิได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท จนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้องหรืออาจต้องถูกปิดกิจการ เพราะการทำธุรกิจให้ถูกต้องตามกฎหมายข้อกำหนด จะทำให้การดำเนินการธุรกิจราบรื่นและยังทำให้ธุรกิจยั่งยื่น นอกจากนี้ก็เป็นเครดิตให้ให้ธุรกิจโฮสเทลของคุณในอนาคตได้ หากต้องการขยายกิจการหรือต้องการดึงดูดนักลงทุนมาร่วมลงทุนในธุรกิจโฮสเทลของคุณในอนาคตได้ด้วย

6. โฮสเทลกับความปลอดภัยในทรัพย์สินของเหล่านักเดินทาง
      นอกจากการสร้างประสบการณ์ที่ดีใส่ใจในทุกรายละเอียดของลูกค้า เพื่อสร้างความสุขและสนุกสนานในการเข้ามาพัก ในส่วนเรื่องความปลอดภัยในทรัพย์สิน ต้องเป็นสิ่งที่นักเดินทางทั้งหลายสามารถวางใจในการดูแลภายในโฮสเทลของคุณได้ แม้ว่าข้อมูลจากงานวิจัยเกี่ยวกับความต้องการของเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ ในการเข้าพักในโฮสเทลส่วนใหญ่ มุ่งประเด็นไปที่เรื่องราคา การได้พบปะเพื่อนใหม่ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทาง รวมไปถึงทำเลที่ตั้งของโฮสเทลที่สามารถเดินทางได้สะดวก แต่เรื่องความปลอดภัยในทรัพย์สินก็เป็นเรื่องสำคัญที่เหล่านักท่องเที่ยวใช้พิจารณาในการเลือกที่พักในโฮสเทลต่างๆ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่โฮสเทลส่วนใหญ่จะมี ตู้ล็อกเกอร์ (Locker) พร้อมกุญแจล็อกอย่างดีไว้ให้บริการเท่ากับจำนวนเตียงที่มี หรือบางที่มีเป็นตู้เซฟ ไว้อำนวยความสะดวกโดยที่เหล่านักท่องเที่ยวไม่ต้องคอยกังวลกับสิ่งของที่เขามี นี่อาจเป็นสิ่งที่หลายๆ คนมองข้ามและพลาดกันได้ ดังนั้นจดไว้ในลิสของคุณซะ!

ล็อกเกอร์
locker สำหรับโฮสเทล furnitmall

7. การโปรโมทธุรกิจโฮสเทล
 เมื่อทุกอย่างเตรียมไว้พร้อมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนหน้าบ้าน หรือการจัดการหลังบ้าน ยังมีอีกเรื่องที่ถือว่าเป็ยปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักชื่อโฮสเทลของคุณได้ นั่นก็คือการโปรโมทโฮสเทลของคุณตามช่องทางต่างๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยว และนักเดินทางทั้งหลายได้รู้จักคุณ และเลือกที่จะพักในโฮสเทลของคุณนั่นเอง ซึ่งปัจจุบันช่องทางในการโปรโมทธุรกิจโฮสเทลมีหลากหลายและทำได้ง่ายมาก เริ่มต้นง่ายๆจาก facebook เช่น การเปิดเพจโฮสเทลของคุณและโปรโมทผ่านทาง facebook ได้เลย หรือโปรโมทผ่านทางเว็บไซต์สำหรับจองห้องพักและโรงแรม เช่น เว็บไซต์ agoda, traveloka, booking.com, Airbnb เป็นต้น หรือการโปรโมทด้วยการทำวิดิโอคอนเทนท์อัพโหลดผ่านทาง YouTube channel ตลอดจนการรีวิวจากเหล่าเน็ตไอดอล หรือ influencer หรือ youtuber ที่แนะนำหรือทำคอนเท้นท์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและที่พักเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้ได้กลุ่มเป้าหมายที่ตรงและทุกช่องทางต้องสามารถเข้าถึงได้ง่าย มีผู้คนติดตามจำนวนเยอะ ตัวอย่างเช่น channel ของเทยเที่ยวไทย,The Gaijin tips เป็นต้น 

แนะนำวิธีการโปรโมทโฮสเทล

1. สร้างสิ่งที่เรียกว่า first impression โดยการจ้างช่างถ่ายภาพที่มีความถนัดตามสไตล์โฮสเทลของคุณ อาจจะเป็นฟรีแลนซ์ หรือช่างภาพมืออาชีพ เพื่อถ่ายภาพสถานที่โดยรอบ ทั้งภาพในและภายนอกห้องพัก รวมถึงบรรยากาศช่วงเช้า กลางวัน และช่วงเย็น ตลอดจนกิจกรรมที่เป็นกิมมิคของโฮสเทล หรืออาจเรียกได้ว่าถ่ายรูปทุกซอกทุกมุม หรือจัดมุมตกแต่งสำหรับไว้ให้ถ่ายรูปโดยเฉพาะ เพื่อให้เกิดความรู้สึกมาแล้วต้องถ่ายรูปตรงมุมนี้ เพราะรูปสวยๆจะช่วยดึงดูดสายตาผู้คนและทำให้เขาเลือกที่จะพักในโฮสเทลของคุณ

2. การจัดกิจกรรมหรือสร้างกิมมิค ซึ่งอาจจะเป็นกิจกรรมเล็กๆ ที่สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้ที่มาพัก เพื่อจะได้ไม่รู้สึกเบื่อ หรืออาจจะเป็นการแนะนำสถานที่ หรือแนะนำกิจกรรมที่มีอยู่รอบๆใกล้ที่พัก หรือจัดทัวร์ แบบ Exclusive เป็นต้น

3. เข้าให้ถึงเว็บไซต์ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เช่น หากลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวกกลุ่มเป้าหมายของเราเป็นนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ การลงโฆษณา หรือการจองห้องพัก ควรเลือกเว็บไซต์ที่เป็นที่นิยมในต่างประเทศ aribnb.com หรือ booking.com

4. ทำ vdo content ร่วมกับการทำโปรโมชั่น เพื่อโปรโมทและดึงดูดความสนใจ เช่นการลดราคาสำหรับการจองห้องพักพร้อมกับลงทะเบียนกิจกรรม หรือจองห้องพักรับส่วนลดเพิ่ม 10% สำหรับคอร์สทำอาหารพื้นเมือง เป็นต้น

5. เฟสบุค (facebook) เป็นช่องทางแรกๆที่เราเลือกใช้เพื้อทำการโปรโมทโฮสเทล เพราะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่าย และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้เอง และต้องมีการอัพเดตหรือทำให้เฟสบุคมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด เน้นการอัพหรือโพสรูปแบบสองภาษา เน้นดีเทลเป็นหลัก เป็นต้น

Read more

FURNITMALL © 2024. All Rights Reserved.

error: Content is protected !!